ไขข้อข้องใจ ทำไมลูกสมาธิสั้น

ลูกสมาธิสั้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ในการเลี้ยงลูกไม่น้อยเลย เด็กซนอาจเป็นเรื่องปกติของคนเป็นพ่อเป็นแม่ เพราะฉะนั้นพฤติกรรมการซนของลูก อาจส่งผลเสียในด้านอื่น ๆ ได้ เรามาไขข้อข้องใจกันดีกว่าว่า ทำไมลูกถึงมีสมาธิสั้น และเราจะมีทางดูแลรักษาลูกอย่างไร ให้ความซนของลูกเป็นโอกาสให้ลูกฉลาดไวขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกได้

ทำไมลูกถึงสมาธิสั้น

ก่อนจะรู้ว่าลูกเป็นเด็กสมาธิสั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ก่อนค่ะว่า เพราะอะไรถึงทำให้ลูกเราสมาธิสั้นได้ เด็กที่มีสมาธิสั้น หรือเรียกอีกอย่างว่า เด็กไฮเปอร์ เกิดจากความผิดปกติทางสมองอย่างหนึ่ง ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคสมาธิสั้นได้ก็คือ กรรมพันธุ์ ส่วนการเลี้ยงดูและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เป็นเพียงปัจจัยที่ทำให้ลูกมีอาการดีขึ้นหรือแย่ลงเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วเขาจะแสดงอาการนี้ให้เห็นได้ชัดตอนลูกน้อยอายุประมาณ 4-5 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นลูกจะซนมาก ๆ เพราะสมองส่วนหน้า (Frontal Lobe) เป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ การยับยั้งชั่งใจยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ และจะทำงานเต็มที่ตอนอายุ 4-5 ปีไปแล้ว
ทำไมลูกถึงสมาธิสั้น

อาการสมาธิสั้นในเด็ก

บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจไม่เคยรู้เลยว่า ลูกกำลังมีอาการสมาธิสั้น โดยคิดว่าลูกเป็นเด็กซนมาก ๆ และคิดว่าเป็นปกติของเด็กทั่วไป เราเลยจะมาแยกอาการให้เห็นชัด ๆ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตพฤติกรรมและอาการของลูกว่าเข้าข่ายเป็นเด็กสมาธิสั้นหรือไม่ ซึ่งโรคสมาธิสั้นจะมี 3 องค์ประกอบด้วยกัน
ลูกซนมาก : เด็ก ๆ จะวิ่งเล่น ทำนั่นทำนี่ในแต่ละแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และไม่มีความกลัวแบบเด็กทั่วไป สามารถเล่นอะไรแผลง ๆ เจ็บ ๆ ได้ ลองสังเกตดูว่าถ้าลูกมีอาการอยู่นิ่ง ๆ กับที่ได้ไม่นาน ต้องวิ่งไปทำโน่นทำนี่อยู่ตลอด ก็อาจมีความเสี่ยงเป็นเด็กสมาธิสั้นได้
สมาธิสั้น : ส่วนใหญ่แล้วเด็กจะขาดสมาธิสูงมาก สังเกตได้ชัดจากตอนเข้าเรียน เด็กจะไม่สามารถนั่งฟังอะไรยาว ๆ ได้จบ จะเปลี่ยนไปทำหรือสนใจอย่างอื่นตลอด บางครั้งอาจมีอาการเหม่อลอย ไม่สนใจสิ่งที่ใครพูดกับเขา ซึ่งส่งผลให้ลูกเรียนไม่ดี เพราะจับใจความทั้งหมดไม่ได้
หุนหันพลันแล่น : เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะไม่รู้จักการรอคอย มักจะชอบพูดสวนทั้ง ๆ ที่ยังไม่จบประโยค และบางครั้งก็ชอบแซงคิว
การดูแลรักษาเด็กสมาธิสั้น

การดูแลรักษาเด็กสมาธิสั้น

อย่างที่บอกว่าสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดู เป็นส่วนประกอบสำคัญในการรักษาลูกให้หายจากโรคสมาธิสั้น ก่อนอื่น หากคุณพ่อคุณแม่คิดว่าลูกมีความเสี่ยงเป็นโรคสมาธิสั้น แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมเด็ก ซึ่งจะรักษาได้ตรงจุดและทำให้เด็กหายได้ ส่วนการดูแลและสภาพแวดล้อมก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยมีวิธีง่าย ๆ ที่ทำให้ลูกหายจากโรคสมาธิสั้นได้
– ฝึกโยคะเด็ก โยคะเป็นกิจกรรมที่ฝึกให้ลูกอยู่นิ่ง ๆ ได้ ค่อย ๆ ฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ลูกจะค่อย ๆ ปรับตัวและมีสมาธิมากยิ่งขึ้น
– ฝึกให้นั่งทำอะไรนาน ๆ 20-30 นาที เช่น ให้ลูกนั่งกินข้าวบนโต๊ะอาหารพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ โดยสนใจที่อาหารและการกินข้าว หรือให้วาดภาพระบายสีเพื่อสร้างสมาธิ เป็นต้น และไม่ควรเปิดทีวีหรือให้ลูกเล่นมือถือระหว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้
– ไม่ใช้คำพูดและความรุนแรงกับลูกเด็ดขาด ถึงแม้เขาจะซนมากแค่ไหน อยากให้พ่อแม่เข้าใจว่า โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ซึ่งควรรักษาอย่างถูกต้องและต้องใจเย็นกับลูก
– กีฬา ดนตรี หรือศิลปะ และกิจกรรมอื่น ๆ สามารถช่วยได้ การอยู่ในเกมกีฬา อาจทำให้เขาต้องจดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งนั้นนาน ๆ ได้
– รับประทานอาหารมีประโยชน์ เน้นรับประทานให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน นอกจากนี้อาจเสริมวิตามินบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะสมอง คุณพ่อคุณแม่สามารถเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองให้ลูกได้ด้วย “เบนไซรัป” น้ำมันปลาทูน่าที่มี DHA เข้มข้นมากถึง 70% ซึ่งมีส่วนช่วยให้ลูกมีสมองที่ปลอดโปร่ง อารมณ์ดี และทำให้เขามีสมาธิมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างให้ลูกๆจากเด็กซนเป็นเด็กเก่งเเละฉลาด
น้ำมันปลาเด็กเบนไซรัป ดูแลลูกน้อย
อย่างไรก็ตาม โรคสมาธิสั้นในเด็กต้องได้รับการดูแลที่ดีและถูกต้อง การทาน DHA เข้นข้น 70% เป็นอีก 1 ปัจจัยสำคัญที่สามารถให้ลูกมีสมาธิที่ดีขึ้น ฉลาด สดใส เเข็งเเรงได้
#เบนไซรัปกินง่าย #เบนไซรัปDHAเข้มข้น 70% #เบนไซรัป #อาหารสำหรับเด็ก #เมนูคุณหนู #DHA #DHA70% #ลูกไม่กินข้าว #วิตามิน #พัฒนาการลูก

บทความที่เกี่ยวข้อง

กลับ